วิธีวิเคราะห์แผนภูมิ Forex อย่างมืออาชีพ

วิธีวิเคราะห์แผนภูมิ Forex อย่างมืออาชีพ

การวิเคราะห์แผนภูมิ ฟอเร็กซ์ เป็นทักษะที่จําเป็นสําหรับผู้ค้าที่ต้องการทําการซื้อขายที่ทํากําไรในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ด้วยการทําความเข้าใจวิธีการอ่านและตีความแผนภูมิฟอเร็กซ์ผู้ค้าสามารถระบุแนวโน้มรูปแบบและระดับแนวรับและแนวต้านที่สําคัญที่สามารถแจ้งการตัดสินใจซื้อขายของพวกเขาได้

ในคู่มือที่ครอบคลุมนี้เราจะมาดูวิธีวิเคราะห์แผนภูมิฟอเร็กซ์อย่างมืออาชีพอย่างละเอียดยิ่งขึ้น เราจะครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่การทําความเข้าใจประเภทแผนภูมิไปจนถึงการใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคดังนั้นคุณจะมีความรู้ทั้งหมดที่คุณต้องการในการตัดสินใจซื้อขายอย่างมีข้อมูล

การทําความเข้าใจแผนภูมิ Forex

แผนภูมิ Forex ให้ภาพแสดงการเคลื่อนไหวของราคาของคู่สกุลเงินเมื่อเวลาผ่านไป มีแผนภูมิฟอเร็กซ์หลายประเภทรวมถึงแผนภูมิเส้นแผนภูมิแท่งและแผนภูมิแท่งเทียน

แผนภูมิเส้น

แผนภูมิเส้นเป็นแผนภูมิฟอเร็กซ์ประเภทที่ง่ายที่สุดและสร้างขึ้นโดยการเชื่อมต่อราคาปิดของคู่สกุลเงินในช่วงเวลาที่กําหนด แผนภูมิเส้นให้ภาพรวมพื้นฐานของการเคลื่อนไหวของราคาของคู่สกุลเงิน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดมากเท่ากับแผนภูมิประเภทอื่น ๆ

รูปแผนภูมิเส้น

แผนภูมิแท่ง

แผนภูมิแท่งให้ข้อมูลรายละเอียดมากกว่าแผนภูมิเส้นและรวมถึงราคาสูงต่ําเปิดและปิดของคู่สกุลเงินในช่วงเวลาที่กําหนด แต่ละแท่งบนแผนภูมิแสดงถึงช่วงเวลาที่กําหนด เช่น หนึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งวัน

รูปแผนภูมิแท่ง

แผนภูมิแท่งเทียน

แผนภูมิแท่งเทียนเป็นแผนภูมิฟอเร็กซ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและมักใช้โดยผู้ค้ามืออาชีพ เช่นเดียวกับแผนภูมิแท่งพวกเขารวมถึงราคาสูงต่ําเปิดและปิดของคู่สกุลเงินในช่วงเวลาที่กําหนด อย่างไรก็ตามแผนภูมิแท่งเทียนนั้นอ่านง่ายกว่าและให้ข้อมูลมากกว่าแผนภูมิแท่ง

แผนภูมิแท่งเทียนใช้แท่งสีที่เรียกว่าแท่งเทียนเพื่อแสดงการเคลื่อนไหวของราคาของคู่สกุลเงิน แท่งเทียนสีเขียวหรือสีขาวบ่งชี้ว่าราคาของคู่สกุลเงินเพิ่มขึ้นในขณะที่แท่งเทียนสีแดงหรือสีดําบ่งชี้ว่าราคาลดลง

รูปกราฟแท่งเทียน

การใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค

ตัวชี้วัดทางเทคนิคเป็นเครื่องมือที่ผู้ค้าใช้ในการวิเคราะห์แผนภูมิฟอเร็กซ์และระบุแนวโน้มและรูปแบบที่สามารถแจ้งการตัดสินใจซื้อขายของพวกเขา มีตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่แตกต่างกันมากมาย แต่ตัวชี้วัดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) และระดับ Fibonacci retracement

ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและใช้เพื่อระบุแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาของคู่สกุลเงิน ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่คํานวณโดยการเฉลี่ยราคาปิดของคู่สกุลเงินในช่วงเวลาที่กําหนด เช่น 50 หรือ 200 วัน

เทรดเดอร์ใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อระบุทิศทางของแนวโน้ม หากราคาของคู่สกุลเงินอยู่เหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่จะถือว่าอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นในขณะที่หากต่ํากว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่จะถือว่าอยู่ในแนวโน้มขาลง

ภาพค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

ดัชนีความแข็งแรงสัมพัทธ์ (RSI)

ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) เป็นอีกหนึ่งตัวบ่งชี้ทางเทคนิคยอดนิยมที่ใช้เพื่อระบุเงื่อนไขการซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไปในคู่สกุลเงิน RSI คํานวณโดยการเปรียบเทียบกําไรและขาดทุนเฉลี่ยของคู่สกุลเงินในช่วงเวลาที่กําหนด

เทรดเดอร์ใช้ RSI เพื่อระบุเมื่อคู่สกุลเงินถูกซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป หาก RSI สูงกว่า 70 จะถือว่าเป็นการซื้อมากเกินไปในขณะที่หากต่ํากว่า 30 จะถือว่าเป็นการขายมากเกินไป

รูปตัวอย่าง RSI

ระดับ Fibonacci Retracement

ระดับ Fibonacci retracement เป็นเครื่องมือยอดนิยมที่ผู้ค้าใช้เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้นในคู่สกุลเงิน ระดับ Fibonacci retracement ขึ้นอยู่กับลําดับ Fibonacci และคํานวณโดยการระบุจุดสูงสุดและจุดต่ําสุดของคู่สกุลเงินจากนั้นใช้อัตราส่วน Fibonacci เพื่อกําหนดระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น

เทรดเดอร์ใช้ระดับ Fibonacci retracement เพื่อระบุจุดเข้าและออกที่เป็นไปได้สําหรับการซื้อขายของพวกเขา ตัวอย่างเช่น หากคู่สกุลเงินอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นและย้อนกลับไปยังระดับ Fibonacci retracement คู่สกุลเงินอาจให้โอกาสในการซื้อสําหรับเทรดเดอร์

รูปตัวอย่าง Fibonacci

ตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่น ๆ

มีตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่น ๆ อีกมากมายที่ผู้ค้าใช้ในการวิเคราะห์แผนภูมิฟอเร็กซ์รวมถึง Moving Average Convergence Divergence (MACD), Bollinger Bands และ Stochastic Oscillators ตัวบ่งชี้แต่ละตัวให้ข้อมูลเชิงลึกที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาของคู่สกุลเงินและสามารถใช้ร่วมกับตัวบ่งชี้อื่น ๆ เพื่อพัฒนากลยุทธ์การซื้อขายที่ครอบคลุม

การใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน

นอกเหนือจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้วผู้ค้ายังใช้การวิเคราะห์พื้นฐานเพื่อวิเคราะห์แผนภูมิฟอเร็กซ์และระบุโอกาสในการซื้อขายที่อาจเกิดขึ้น การวิเคราะห์พื้นฐานเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบปัจจัยทางเศรษฐกิจการเงินและปัจจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาของคู่สกุลเงิน

ปัจจัยสําคัญบางประการที่ผู้ค้าพิจารณาเมื่อใช้การวิเคราะห์พื้นฐาน ได้แก่ :

  • เครื่องชี้เศรษฐกิจ เช่น ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ย
  • เหตุการณ์ทางการเมืองและภูมิรัฐศาสตร์ เช่น การเลือกตั้งและความขัดแย้งระหว่างประเทศ
  • นโยบายของธนาคารกลาง เช่น นโยบายการเงินและการตัดสินใจในอัตราดอกเบี้ย
  • ความเชื่อมั่นของตลาด เช่น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้

ด้วยการรวมการวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานผู้ค้าสามารถพัฒนาความเข้าใจที่ครอบคลุมมากขึ้นเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาของคู่สกุลเงินและทําการตัดสินใจซื้อขายอย่างมีข้อมูลมากขึ้น

บทสรุป

การวิเคราะห์แผนภูมิฟอเร็กซ์เป็นทักษะที่จําเป็นสําหรับผู้ค้าที่ต้องการทําการซื้อขายที่ทํากําไรในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ด้วยการทําความเข้าใจวิธีการอ่านและตีความแผนภูมิฟอเร็กซ์ผู้ค้าสามารถระบุแนวโน้มรูปแบบและระดับแนวรับและแนวต้านที่สําคัญที่สามารถแจ้งการตัดสินใจซื้อขายของพวกเขาได้

ในคู่มือที่ครอบคลุมนี้เราได้ครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่การทําความเข้าใจประเภทแผนภูมิไปจนถึงการใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐาน ด้วยการใช้เครื่องมือและเทคนิคเหล่านี้ผู้ค้าสามารถพัฒนากลยุทธ์การซื้อขายที่ครอบคลุมซึ่งคํานึงถึงทั้งปัจจัยทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของราคาของคู่สกุลเงิน

Related Posts